โยคะถือเป็นการออกกำลังกายในอีกรูปแบบหนึ่งที่ช่วยเสริมสร้างร่างกายเด็กให้แข็งแรง ช่วยการเจริญเติบโตของกระดูกและกล้ามเนื้อ ทำให้กล้ามเนื้อมีความยืดเหยียด มีความอ่อนตัว (Flexibility) รวมถึงช่วยฝึกการทรงตัว ส่งผลให้เด็กเคลื่อนไหวร่างกายได้อย่างสัมพันธ์กัน ซึ่งคุณพ่อคุณแม่บางท่านอาจมองว่า การฝึกโยคะจะคล้ายกับการฝึกยิมนาสติก แต่ในความเป็นจริงนั้นมีความแตกต่างกัน เพราะการเล่นยิมนาสติกจะเน้นการฝึกสมรรถภาพร่างกาย มุ่งเน้นการพัฒนาตนเองอย่างสม่ำเสมอและต้องใช้ความอดทนเป็นอย่างมาก แต่การฝึกโยคะเป็นเรื่องง่าย ๆ เหมือนให้เด็กนั่งนิ่ง ๆ สักพักแล้วจดจ่อกับลมหายใจเท่านั้นเอง จึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่คุณพ่อคุณแม่สามารถนำไปสอนเด็ก ๆ ได้นะคะ

โยคะเด็ก กิจกรรมเสริมสร้างศักยภาพเด็กปฐมวัย
โยคะเด็ก กิจกรรมเสริมสร้างศักยภาพเด็กปฐมวัย

สำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่ไม่เคยเล่นโยคะ อาจมีความสงสัยและไม่รู้ว่าจะต้องเตรียมสถานที่ เสื้อผ้า และเตรียมความพร้อมเด็กอย่างไรบ้าง ไม่ต้องกังวลใจนะคะ เพราะผู้เขียนได้มีวิธีการเตรียมสิ่งเหล่านี้ไว้แล้วค่ะ

สถานที่สำหรับการฝึกโยคะ

ควรเป็นที่ที่มีอากาศถ่ายเทได้สะดวก ไม่ร้อนหรืออบอ้าวจนเกินไป และไม่มีเสียงรบกวน (หากเล่นในห้องแอร์อุณหภูมิของห้องควรอยู่ที่ประมาณ 25-26 องศาเซลเซียส) ส่วนสถานที่กลางแจ้ง อย่างเช่น สวนนอกบ้านควรเลือกพื้นเรียบ ไม่เอียง

สถานที่สำหรับฝึกโยคะกลางแจ้ง
สถานที่สำหรับฝึกโยคะกลางแจ้ง

ชุดสำหรับการฝึกโยคะ

ควรเลือกชุดที่มีความยืดหยุ่นและเคลื่อนไหวได้สะดวก อย่างเช่น เสื้อยืดหรือเสื้อกล้าม ส่วนกางเกงขาสั้นหรือขายาวก็ได้ แล้วแต่สะดวกค่ะ แต่ควรจะเป็นผ้ายืด หรือใส่แล้วสามารถยืดเหยียดแขนขาได้สบายค่ะ

ฝึกควบคุมลมหายใจ

ก่อนฝึกท่าโยคะ แนะนำให้ฝึกเด็ก ๆ ควบคุมลมหายใจเข้าและควบคุมลมหายใจออกช้า ๆ ให้คล่องนะคะ เพื่อเวลาทำท่าโยคะต่าง ๆ เด็กจะได้ไม่ระแวงขณะที่ฝึกท่าโยคะค่ะ โดยเริ่มจากให้เด็กนั่งขัดสมาธิ จากนั้นหายใจเข้าลึก ๆ แล้วค่อย ๆ หายใจออกช้า ๆ ให้ได้มากที่สุด โดยฝึกประมาณ 7-8 รอบ หรือจนกว่าเด็กจะชินกับการควบคุมลมหายใจ ซึ่งการเตรียมลมหายใจให้พร้อมก่อนฝึกโยคะ จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพระหว่างการฝึกให้ได้ผลดียิ่งขึ้นค่ะ

ผู้สอนและเด็กกำลังฝึกควบคุมลมหายใจอย่างมีสมาธิ
ผู้สอนและเด็กกำลังฝึกควบคุมลมหายใจอย่างมีสมาธิ

ท่าโยคะง่าย ๆ สำหรับเด็ก

การฝึกโยคะสำหรับเด็ก (Yoga for kids) จะแตกต่างจากโยคะผู้ใหญ่ตรงที่จะมุ่งเน้นไปในการทำท่าที่ไม่เข้มงวด ไม่สลับซับซ้อน และเน้นฝึกเพียงไม่กี่ท่าพื้นฐานที่เด็กสามารถทำได้ ซึ่งผู้เขียนมีท่าโยคะเบื้องต้นง่าย ๆ สำหรับเด็ก มาแนะนำดังนี้ค่ะ

1. ท่าดอกบัว (Lotus Pose)

เป็นท่าที่ใช้รวบรวมสมาธิ และฝึกการหายใจเข้า-หายใจออก เพื่อรวบรวมจิตของเด็กให้พร้อม ก่อนจะเริ่มฝึกโยคะค่ะ

ท่าดอกบัว (Lotus Pose)
นั่งขัดสมาธิและมือทั้งสองข้างวางที่หน้าขา
วิธีการฝึก

1. นั่งขัดสมาธิ ยืดหลังและลำตัวให้ตรง หน้ามองตรงไปข้างหน้า

2. หงายมือทั้งสองข้างขึ้นวางไว้บนหน้าขา ปล่อยไหล่ให้ผ่อนคลาย โดยไม่ต้องเกร็ง

3. ค่อย ๆ หลับตา หายใจเข้าลึก ๆ และหายใจออกช้า ๆ อย่างเป็นจังหวะ ทำประมาณ 5 ครั้ง

ขณะที่ฝึกคุณพ่อคุณแม่สามารถช่วยจับบริเวณหลังเด็กยืดให้ตรงได้นะคะ เพราะเด็กจะยังไม่รู้ว่าตัวเองยืดหลังให้ตรงแล้วหรือยังค่ะ
2. ท่าผีเสื้อ ( Butterfly Pose )

ท่านี้จะช่วยยืดกระดูกสันหลังส่วนล่างและเส้นใต้ขา ส่วนการก้มตัวจะช่วยยืดในส่วนบริเวณต้นคอค่ะ

นั่งประกบเท้าเข้าหากันแล้วมือทั้งสองข้างจับที่ฝ่าเท้า
นั่งประกบเท้าเข้าหากันแล้วมือทั้งสองข้างจับที่ฝ่าเท้า
ท่าผีเสื้อ ( Butterfly Pose )
นั่งประกบเท้าเข้าหากัน มือทั้งสองข้างจับที่ฝ่าเท้าแล้วก้มศรีษะลง
วิธีการฝึก

1. นั่งหลังตรง หันฝ่าเท้าชนกันทั้งสองข้าง จากนั้นใช้มือจับที่เท้าแล้วค่อย ๆ ดึงเท้าทั้งสองข้างเข้าชิดลำตัว

2. ค่อย ๆ หลับตาแล้วหายใจเข้าลึก ๆ จากนั้นหายใจออกพร้อมก้มตัวให้ศีรษะจรดเท้า ค้างไว้ แล้วควบคุมลมหายใจเข้าและหายใจออกช้า ๆ ทำประมาณ 5 ครั้ง

3. ท่าพระจันทร์ครึ่งเสี้ยว ( Crescent moon Pose )

ท่านี้จะช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นกับความแข็งแรงของกล้ามเนื้อด้านข้างลำตัว และการหายใจเข้าลึก ๆ ไปยังปอด จะช่วยให้กล้ามเนื้อข้างลำตัวยืดหยุ่นได้มากขึ้นค่ะ

ท่าพระจันทร์ครึ่วเสี้ยว ( Crescent moon Pose )
ยืนแยกขาเล็กน้อย ยกแขนทั้งสองข้างขั้นประกบกันแล้วเอียงตัวไปด้านข้าง
วิธีการฝึก

1. ยืนตัวตรง แยกขาให้เท่าช่วงหัวไหล่ จากนั้นหายใจเข้าลึก ๆ พร้อมยกแขนทั้งสองข้างขี้นเหนือศีรษะ ประกบมือทั้งสองข้างเข้าหากันค้างไว้ แล้วหายใจออกช้า ๆ

2. จากนั้นหายใจเข้าลึก ๆ พร้อมเอียงตัวไปข้างซ้าย แล้วหายใจออกพร้อมดึงตัวกลับมาตรงกลาง ต่อไปหายใจเข้าลึก ๆ พร้อมเอียงตัวไปทางขวา แล้วหายใจออกพร้อมดึงตัวกลับมาตรงกลาง

3. ทำซ้ำขั้นที่ 2 ให้ต่อเนื่องกัน ประมาณ 5 ครั้ง

ผู้สอนกำลังสอนเด็กฝึกท่าพระจันทร์ครึ่งเสี้ยว
ผู้สอนกำลังสอนเด็กทำท่าพระจันทร์ครึ่งเสี้ยว
แนะนำว่าขณะที่เปลี่ยนท่าให้เด็กค่อย ๆ ยืนขึ้น โดยตั้งเข่าข้างที่ถนัดขึ้นก่อนค่อยยกขาอีกข้างตามแล้วยืนขึ้นค่ะ เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้เด็กเวียนหัวจากการลุกเร็วเกินไป
4. ท่าเด็ก (Childe’s Pose)

ท่านี้ช่วยยืดเหยียดกล้ามเนื้อบริเวณ ลำตัว สะโพก ต้นขา และข้อต่อต่าง ๆ ในร่างกายรวมถึงข้อเท้า ข้อเข่า ข้อมือ แล้วยังช่วยกระตุ้นระบบย่อยอาหารด้วยค่ะ

นั่งทับส้นเท้าแล้วมือทั้งสองข้างวางที่หน้าขา
นั่งทับส้นเท้าแล้วมือทั้งสองข้างวางที่หน้าขา
ท่าเด็ก (Childe’s Pose)
นั่งทับส้นเท้าแล้วเหยียดแขนทั้งสองข้างไปด้าน
วิธีการฝึก

1. นั่งคุกเข่า ปลายเท้าราบกับพื้น แล้วนั่งทับบนส้นเท้าพร้อมยืดลำตัวให้ตรง ใบหน้ามองตรงไปข้างหน้า

2. จากนั้นหายใจเข้าลึก ๆ พร้อมเหยียดแขนทั้งสองข้างขึ้นไปเหนือศีรษะให้ได้มากที่สุด แล้วหายใจออกพร้อมก้มตัวลง ให้หน้าผาติดพื้น ก้นยังอยู่บนส้นเท้านะคะ (หากก้มไม่ได้ให้ยกก้นเล็กน้อยได้ค่ะ) ค้างท่าไว้ ควบคุมการหายใจเข้าและหายใจออกช้า ๆ ประมาณ 5 ครั้ง แล้วค่อยเงยหน้าขึ้น

เด็กกำลังฝึกโยคะท่าเด็ก
เด็กกำลังฝึกโยคะท่าเด็กอย่างตั้งใจ
5. ท่างู (Cobra Posture)

ท่านี้จะช่วยสร้างความยืดหยุ่นให้กับกระดูกสันหลัง ช่วยให้ระบบย่อยอาหารดีขึ้น และทำให้ระบบขับถ่ายทำงานได้ดี

เด็กกำลังฝึกโยคะท่างู
หนูชอบฝึกโยคะท่างูที่สุดเลยค่ะ
วิธีการฝึก

1. ให้เด็กนอนคว่ำ วางมือไว้ข้างลำตัวตั้งข้อศอกขึ้น แล้วค่อย ๆ หลับตา จากนั้นหายใจเข้าลึก ๆ พร้อมดันข้อศอกขึ้น แล้วดันตัวขึ้นช่วงบนขึ้น เงยหน้าขึ้นให้มากที่สุด แล้วหายใจออกช้า ๆ

2. ค้างท่าไว้ แล้วควบคุมลมหายใจเข้า-หายใจออก ประมาณ 5 ครั้ง แล้วลดลำตัวลงกลับมาสู่ท่านอนคว่ำ

ท่าเด็ก (Childe’s Pose)
นอนคว่ำแล้ววางมือทั้งสองข้างตั้งฉากกับข้างลำตัว
ท่างู (Cobra Posture)
นอนคว่ำแล้วดันศอกและลำตัวขึ้น
6. ท่านอน (Corpse Pose)

เป็นท่าสุดท้ายที่ต้องทำหลังจากฝึกโยคะเสร็จทุกครั้ง โดยให้นอนหงาย มือทั้งสองข้างวางไว้ข้างลำตัว แล้วค่อย ๆ หลับตา ปล่อยวางทุกอย่าง ให้ร่างกายผ่อนคลายสบาย ๆ ใช้เวลาประมาณ 10 นาทีหรือให้เด็กนอนหลับได้ยิ่งดีค่ะ เพราะจะช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อส่วนต่าง ๆ และทำให้ร่างกายและจิตใจได้ปล่อยวาง

ฝึกท่าโยคะเสร็จแล้วนอนผ่อนคลายกันค่ะ
ฝึกท่าโยคะเสร็จแล้วนอนผ่อนคลายกันค่ะ
ในช่วงแรก ๆ ของการเริ่มฝึกโยคะอาจจะทำให้เด็กเบื่อง่าย ไม่มีสมาธิ คุณพ่อคุณแม่อาจจะเปิดเพลงสบาย ๆ เบา ๆ ควบคู่กับการฝึกเพื่อจะทำให้เด็กผ่อนคลายขณะฝึกได้นะคะ ทั้งนี้สามารถกำหนดจำนวนครั้งการหายใจเข้า-หายใจออกระหว่างฝึกได้นะคะ และหากเด็ก ๆ ได้ฝึกโยคะเป็นประจำทุกวันก็จะสามารถทำให้เด็กมีสมาธิขณะฝึกนานขึ้นด้วยค่ะ
การฝึกโยคะช่วยให้หนูมีสมาธิมากขึ้นค่ะ
การฝึกโยคะช่วยให้หนูมีสมาธิมากขึ้นค่ะ

โยคะนอกจากจะช่วยเสริมสร้างพัฒนาการทางด้านร่างกายและเสริมสร้างจินตนาการให้กับเด็กแล้ว ยังช่วยฝึกสมาธิเด็กได้ดี เพราะการเล่นโยคะจะแตกต่างจากกิจกรรมทั่วไปที่เน้นสนุกสนาน ร่าเริง แต่การฝึกโยคะจะเป็นการสอนให้เด็กได้ฝึกสมาธิ รู้จักควบคุมลมหายใจเข้าและควบคุมลมหายใจออกของตนเอง และรู้จักการเคลื่อนไหวร่างกายอย่างสมดุล เมื่อเด็กมีสมาธิที่ดีก็จะส่งผลไปยังเรื่องการเรียนด้วย ทำให้เด็กอ่านหนังสือและจดจำได้ดีขึ้นนั่นเองค่ะ ทั้งนี้การฝึกโยคะยังช่วยทำให้เด็กมีจิตใจสงบ จิตใจอ่อนโยน และช่วยทำให้เด็กใจเย็นอีกด้วยนะคะ