กระบวนการเรียนรู้ในวัยเด็กนั้นจะเริ่มที่การจดจำเป็นสำคัญ โดยการจดจำนั้น เด็กจะจดจำในทุกมิติที่เด็กสามารถรับรู้ได้ ควบคู่ไปกับ การเรียนรู้เรื่องราวในชีวิตประจำวันด้วยเสมอ เช่น การจดจำในเรื่องอารมณ์ ความรู้สึก และสัมผัส
ดังนั้นในการส่งเสริม การอ่าน และการจดจำของเด็กนั้น ผู้ปกครองควรใส่ใจในเรื่องวิธีการ และขั้นตอนการสอนอย่างมีรูปแบบ เพื่อให้เด็กนั้นเกิดการรับรู้ที่ดี และจะเป็นการปลูกฝังให้เด็ก ชอบและรักการอ่าน ควบคู่ไปกับพัฒนาการด้านอื่นจะดีขึ้นด้วย ในเรื่องรูปแบบและวิธีการนั้น เรามีหลักง่าย ๆ 4 ข้อ คือ
- อดทน และเข้าใจ
- ส่งเสริม
- กระตุ้น และรางวัล
- ทำซ้ำ สม่ำเสมอ
![](/assets/images/article/reading/reading-for-Kids01.png)
อดทน และเข้าใจ
สิ่งแรกที่ต้องทำความเข้าใจก่อนเลย คือ ผู้ปกครองต้องมีความอดทนเป็นเลิศ เนื่องจากถ้าไม่มีความอดทนที่ดีพอแล้ว ทุกสิ่งที่จะเกิดขึ้นนั้น เราจะควบคุมผลที่ตามมาไม่ได้ กฎเหล็ก 1 ข้อคือ อย่าคาดหวังกับตัวเด็กมากจนเกินไป แต่สามารถเปรียบเทียบได้ในเชิงสถิติของการทำกิจกรรมแต่ละครั้ง และอย่านำผลการเรียนรู้ของเด็ก มาเปรียบเทียบให้เด็กฟังหรือแสดงคำพูด สีหน้า ท่าทางในการผิดหวังในตัวเด็กจนเกินพอดี เช่น ทำไมน้องคนนั้นจำได้ เพื่อนในห้องทำไมท่องได้ ทำได้ แย่มาก ไม่เก่งเลย
ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นคำพูด สีหน้า ท่าทาง การแสดงออก ผู้ปกครองควรมีสติ และควรทำความเข้าใจด้วยความอดทนและหารูปแบบใหม่ ๆ ช่วยกระตุ้นจะดีกว่า ดังนั้น “อย่าคาดหวังในตัวเด็กจนเกินไป จนเกิดการเปรียบเทียบ ถ้าผู้ปกครองต้องการจะเปรียบเทียบ ควรเปรียบเทียบ ความพร้อมตามวัย จะดีกว่า”
กระทรวงศึกษาธิการ มีการจัดทำเนื้อหา เกณฑ์การประเมินมาตรฐานคุณลักษณะที่พึงประสงค์ ระดับชั้นอนุบาล (เรียกง่าย ๆ คือ พัฒนาการตามเกณฑ์อายุ) ไว้แล้ว ผู้ปกครองสามารถนำไปพิจารณาเปรียบเทียบพัฒนาการของเด็กได้
การหาบทลงโทษที่เด็กทำไม่ได้ตามความคาดหวังของผู้ปกครอง ไม่ใช่สิ่งที่ดีต่อการเรียนรู้ แต่การหาบทลงโทษเนื่องจากเด็กนั้นไม่ตั้งใจ อันนี้ผู้ปกครองควรแยกแยะและหาบทลงโทษ ให้เหมาะสมกับสถานการณ์ ยังไง ลองหาวิธีกันดูนะคะ
![](/assets/images/article/reading/reading-for-Kids02.png)
ส่งเสริม
การส่งเสริมการอ่านและการจดจำที่ง่ายที่สุด และมีต้นทุนน้อยที่สุด ที่ผู้ปกครองทุกคนสามารถเข้าถึงสื่อเหล่านี้ได้ คือ สมุดภาพ และบัตรคำต่าง ๆ ที่มีขายอยู่ทั่วไปหรือแม้แต่ นิทาน ภาพจากนิตยสารเก่า ผู้ปกครองสามารถนำมาปรับปรุง สร้างเป็นสื่อการเรียนรู้ใหม่ ๆ ให้เด็ก ๆ ได้สนุกกับการจดจำ และอ่านได้โดยไม่ต้องไปเสียเงินซื้อสื่อที่มีราคาแพงแต่อย่างใด เด็ก ๆ โดยทั่วไปจะมีสมาธิ อยู่กับสิ่งหนึ่งสิ่งใดได้น้อยตามเกณฑ์อายุ และจะมีความเบื่อง่าย ดังนั้น การสร้างมุมเรียนรู้ หรือ การหาภาพบัตรคำ สติ๊กเกอร์หรือกระดานไวท์บอร์ดมาไว้ในบ้าน เพื่อให้เด็ก ๆ ได้หยิบมาเล่น อ่านหรือเขียน ตามมุมบ้าน กำแพงหรือแม้แต่บันได จะเป็นการส่งเสริมการเรียนรู้ การจดจำ ได้อย่างดีที่สุด
![](/assets/images/article/reading/reading-for-Kids03.png)
ถ้าจะให้แนะนำหากในบ้านเรามี printer เราสามารถหาภาพจาก internet ที่แจกฟรี นำมา print แล้วติดตามฝาผนังบ้าน ผนังห้อง โดยใช้สติ๊กเกอร์ใสเคลือบอีกชั้น โดยรูปที่เราหามาในวัยเด็กเล็ก เราไม่จำเป็นต้องมีตัวอักษร เอาเป็นรูป ที่มีสีสันสดใส และเป็นรูปสิ่งที่อยู่รอบตัวเด็ก ที่เด็กเคยผ่านสายตามาบ้าง จะให้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
เมื่อเด็กโตขึ้นเรายังสามารถนำตัวอักษรหรือชื่อ มาติดเพิ่มใต้รูปเหล่านั้น หรือเปลี่ยนรูปใหม่ให้เหมาะสมตามวัย เพื่อเพิ่มความสนุกและความท้าทาย ให้เด็ก ไม่เบื่อ ในกรณีที่เราอยากจะสร้างเงื่อนไข ให้เด็กได้ลองพยายามแข่งขันกับผู้ปกครองหรือสมาชิกภายในครอบครัวได้ค่ะ
สิ่งสำคัญของการส่งเสริมนอกจากอุปกรณ์และสถานที่แล้ว บรรยากาศและเวลาในการเรียนรู้ ต้องเหมาะสม ด้วย เช่น สถานที่ต้องสะอาด มีอุณหภูมิห้องที่ไม่ร้อนไม่หนาวจนเกินไป ผู้ปกครองมีเวลาและสมาธิอยู่กับเด็กได้ครบตลอดเวลาทำกิจกรรม
ดังนั้น การส่งเสริมด้วยการสร้างกิจกรรมเล็ก ๆ ใช้เวลาสั้น ๆ ซัก 5 นาที บางครั้ง อาจจะให้ผลลัพธ์ที่ดีมากกว่า กิจกรรมที่ใช้เวลานาน ๆ เพราะเด็กจะไม่เบื่อง่าย แต่เด็กบางคนอาจจะชอบอยู่กับกิจกรรมที่ใช้เวลานาน ๆ ได้ อันนี้ ผู้ปกครองต้องคอยสังเกตการเรียนรู้ของเด็กควบคู่กันไป เพื่อจะได้ส่งเสริมได้ตรงจุด และให้เด็กยังคงสนุกกับการเรียนรู้ การอ่านและการจดจำ ได้โดยไม่เบื่อ
กระตุ้น และรางวัล
การกระตุ้นเด็กให้อยากอ่าน เป็นเรื่องที่ดีและที่สำคัญผู้ปกครองสามารถทำได้บ่อยครั้ง ไม่มีข้อกำหนดว่าทำบ่อยแล้วจะไม่ดี ทำไปเลยค่ะ เพื่อให้เด็กพัฒนาเป็นผู้อ่านที่ดี แต่บางครั้งการกระตุ้นควรจัดหากิจกรรมสนุก ๆ มาร่วมทำกับเด็ก จะทำให้เด็กสนุกกับการอ่านมากขึ้น การจัดกิจกรรมที่ช่วยกระตุ้นการใช้ภาษาในการสื่อสาร บางครั้งอาจช่วยส่งเสริมการแสดงออกของเด็กให้เด็กเป็นคนกล้าแสดงออกได้อีกทาง
ถ้าถามว่าการกระตุ้นที่ทำได้ภายในครอบครัว มีอะไรน่าสนใจบ้างที่ทำได้เองง่าย ๆ ก็อยากจะบอกว่า กิจกรรมบทบาทสมมุติ นั้นทำง่ายที่สุด กิจกรรมบทบาทสมมุติ คิดง่าย ๆ คือการปล่อยให้เด็กมีจินตนาการคิดสิ่งที่ตัวเองคิด แล้วสมมุติบทบาทขึ้นมาโดยการเล่า หรือ อธิบายให้เราหรือคนในครอบครัวได้ฟัง เช่น พื้นฐานเลยคงเป็นการเล่นขายของ กิจกรรมนี้เป็นกิจกรรมที่สนุกและเด็ก ๆ เกือบทุก ๆ บ้านต้องชอบนอกจากจะช่วยกระตุ้นการใช้ภาษาในการสื่อสารให้กับเด็กแล้ว ยังสามารถฝึกให้เด็กรู้จักเรียบเรียงประโยคในการสื่อสารให้เป็นประโยคยาว ๆ ได้ดีมากขึ้น
โดยผู้ปกครองอาจจะเอาของเล่น บัตรคำ หรือ ปั้นแป้งโดมาช่วยกระตุ้นให้เด็กจดจำคำ และเรียบเรียงประโยคให้ถูกต้องมากขึ้น ผู้ปกครองและคนในครอบครัวควรให้เวลาเด็กได้แสดงบทบาทออกมาอย่างเต็มที่ ไม่ควรขัดจังหวะ ถ้าจะเสริมควรใช้วิธีเข้าไปเล่นบทบาทสมมุติด้วยกันกับเด็ก แล้วใช้อุปกรณ์ช่วยเสริมเป็นการชี้นำให้เด็กได้ใช้อุปกรณ์หรือสื่อที่เราหามาเสริมเด็ก ๆ ได้ทางอ้อม อย่าทำแบบยัดเยียดเพราะเด็กจะต่อต้าน
![](/assets/images/article/reading/reading-for-Kids04.png)
ถึงแม้กิจกรรมต่าง ๆ ที่ได้แนะนำมาข้างต้นจะทำให้เด็กอ่านอย่างสนุกและมีความสุขแล้ว แต่สำหรับเด็กบางกลุ่มที่ยังลังเลและต้องการแรงจูงใจมากกว่า การทำกิจกรรมต่าง ๆ ผู้ปกครองอาจจะหารางวัลเล็ก ๆ น้อย ๆ มาเสริมแรงให้เด็กเพื่อกระตุ้นให้มีความกระตือรือร้นในการอ่านและเพิ่มความสุขทางใจให้เด็กอีกทาง ของรางวัลบางครั้งไม่จำเป็นต้องเป็นสิ่งมีค่ามากมายการวาดดาวบนมือเด็ก หรือแจกสติ๊กเกอร์แผ่น ก็สามารถเป็นรางวัลให้กับเด็ก ๆ ได้แล้ว
แนะนำกิจกรรมสำหรับเด็ก 4-6 ปี
(อ่านจบ ครบ แล้วไปเที่ยว)
กิจกรรมนี้เหมาะในช่วงวันหยุดหรือปิดภาคเรียนของเด็ก ๆ นะคะ เชื่อว่าเมื่อถึงเวลาใกล้ปิดเทอมหรือในวันหยุดหลาย ๆ วันติดต่อกัน จะมีคำถามจากเด็กว่า วันหยุดนี้คุณพ่อ-แม่ พาหนูไปทะเลหรือสวนสัตว์ได้ไหมครับ/คะ ผู้ปกครองอาจสร้างข้อตกลงกับเด็ก เช่น ถ้าหนูอยากไปสวนสัตว์ หนูดูสิว่าในโบว์ชัวร์นี้เค้าเขียนแนะนำอะไรไว้บ้าง โบว์ชัวร์ที่ว่านี้ผู้ปกครองสามารถทำเองแบบง่าย ๆ หาคำศัพท์ที่ไม่ยากเกินไปให้เด็กอ่านเกี่ยวกับสถานที่ ๆ อยากไปถ้าเด็กอ่านได้ครบก็พาเด็กไปในสถานที่นั้นตามข้อสัญญาที่ตกลงไว้กับเด็ก แค่นี้ก็ได้กิจกรรมสนุก ๆ เพิ่มและยังกระตุ้นให้เด็กรักการอ่านอีกด้วย แต่ในเด็กบางคนที่ยังอ่านไม่ได้ อาจจะใช้วิธีให้เด็กลองสะกดตัวอักษรตามคำว่ามีอักษรและพยัญชนะอะไรบาง แล้วผู้ปกครองจึงค่อย ๆ สอนเสริมให้เค้าได้หัดผสมคำจนครบบรรทัดเริ่มจากทีละน้อย ๆ แต่ทำบ่อย ๆ จะได้ผลลัพธ์ที่ดียังไงลองทำกันดูนะคะ
ทำซ้ำ สม่ำเสมอ
การทำซ้ำ คือการเสริมสร้างความมั่นใจให้เด็กในการทำกิจกรรมการเรียนรู้ ผู้ปกครองควรสังเกตว่า ถ้าเด็ก ๆ สามารถทำตามกิจกรรมที่เราจัดให้ได้อย่างถูกต้อง ควรให้ทำซ้ำอีกครั้งในรูปแบบเดิม ถ้าทำได้ ลองทำคล้ายเดิม แต่ให้มีการเปลี่ยนแปลงในรายละเอียดบ้างเพื่อให้เด็กไม่รู้สึกเบื่อหน่าย ควรทำจบแค่นี้ไม่ควรทำต่อ แม้ว่าจะจบกิจกรรมเร็วก็ควรไปทำอย่างอื่นต่อไป และถ้าเป็นไปได้ในกิจกรรมรูปแบบเดิม ควรมีการทำแบบเดิมอย่างสม่ำเสมอในวันถัดไป หรืออาทิตย์ถัดไป เพื่อเป็นการเน้นย้ำว่าเด็กยังสามารถจดจำได้ และสามารถทำกิจกรรมได้อย่างสมบูรณ์ ถ้าเด็กสามารถทำได้ในครั้งต่อมาควรให้คำชมเป็นรางวัลกับเด็กเสมอ และเปลี่ยนกิจกรรมเป็นกิจกรรมอื่นต่อไป หรืออาจจะเปลี่ยนชุดคำ บัตรคำเป็นชุดอื่น ๆ ที่เด็กสนใจต่อไป