เรื่องการฉี่รดที่นอน ถือเป็นเรื่องปกติสำหรับเด็กในวัย 2-6 ปี เพราะกระเพาะปัสสาวะของเด็กวัยนี้ยังมีขนาดเล็กทำให้ไม่สามารถกักเก็บฉี่ได้เป็นเวลานานและเด็กยังควบคุมการกลั้นเพื่อลุกไปฉี่ได้ไม่ดีพอ ผู้ปกครองต้องเข้าใจก่อนนะคะ ว่าความสามารถในการควบคุมกระเพาะปัสสาวะของเด็กนั้นก็ไม่ต่างไปจากการพัฒนาทักษะด้านอื่น ๆ ที่เด็กแต่ละคนจะมีพัฒนาเร็วช้าที่แตกต่างกันไป
เมื่อเด็กโตขึ้นกระเพาะปัสสาวะจะเกิดการขยาย ทำให้สามารถที่จะกักเก็บปัสสาวะไว้ได้ในปริมาณที่มากขึ้นและทำให้รอบการปวดปัสสาวะนั้นนานขึ้น แต่สำหรับเด็กบางคนอาจใช้เวลาพอสมควรในการที่จะทนการนอนติดต่อกันนาน 8 - 10 ชั่วโมง โดยที่ไม่ปัสสาวะออกมา เพราะฉะนั้นการที่เด็กฉี่รดที่นอนจึงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร เรามีวิธีในการช่วยให้เด็ก ๆ ลดและเลิกฉี่รดที่นอนมาแนะนำค่ะ ผู้ปกครองควรรับมือกับปัญหานี้ด้วยความเข้าใจถึงพัฒนาการของเด็กในแต่ละช่วงวัย ต้องใจเย็น ไม่เร่งรัดเด็กและอดทนค่ะ
ก่อนนอนอย่าให้เด็กดื่มน้ำเยอะ
เรื่องนี้ถือเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เด็กฉี่รดที่นอนเลยนะคะ โดยเฉพาะ 2 ชั่วโมงก่อนเข้านอน พยายามอย่าให้เด็กกินน้ำเยอะ เพื่อเป็นการช่วยลดโอกาสที่เด็กจะปวดฉี่ระหว่างหลับได้ แต่ถ้าเด็กกินนม 1 แก้ว หรือ 1 กล่องก่อนนอน ควรทิ้งระยะประมาณ 30-60 นาที แล้วค่อยให้เด็กเข้าห้องน้ำไปแปรงฟันและฉี่ก่อนที่จะพาเข้านอน ที่สำคัญผู้ปกครองควรฝึกเด็กในการเข้าห้องน้ำก่อนเข้านอนให้ติดเป็นนิสัยด้วยนะคะ
ปลุกเด็กเข้าห้องน้ำระหว่างคืน
หลักจากที่พาเด็กเข้าห้องน้ำก่อนนอนแล้ว ผู้ปกครองควรปลุกเด็กให้เข้าห้องน้ำอีกครั้งหนึ่งหลังจากผ่านไปแล้ว 4-5 ชั่วโมง เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้เด็กฉี่รดที่นอน เช่น ถ้าให้เด็กนอนตอน 2 ทุ่ม ในเวลาเที่ยงคืนผู้ปกครองควรปลุกเด็กให้ลุกมาเข้าห้องน้ำเพื่อฉี่อีกรอบค่ะ ไม่ต้องกังวลนะคะ ว่าจะไปรบกวนการนอนของเด็ก เพราะเด็กจะยังกึ่งหลับกึ่งตื่นอยู่สามารถพาเดินไปได้ พอเด็กกลับมาที่นอนก็จะนอนหลับต่อได้เอง แนะนำว่าอย่าเปิดไฟในห้องนอนให้อาศัยไฟจากทางเดินหรือไฟจากห้องน้ำแทน เพราะแสงไฟจากห้องนอนจะไปรบกวนเวลาเด็กกลับมานอนอีกครั้ง (แต่ถ้าบ้านไหนมีไฟหรี่ก็สามารถใช้แทนได้เลยนะคะ)
ให้เด็กดื่มน้ำระหว่างวัน
การที่เด็กดื่มน้ำในช่วงกลางวันน้อย จะส่งผลให้ในช่วงเวลาตอนเย็นเด็กจะดื่มน้ำเยอะกว่าปกติ เพื่อเป็นการทดแทนการขาดน้ำ ดังนั้น ในระหว่างวันผู้ปกครองควรให้เด็กดื่มน้ำเยอะ ๆ และน้ำยังมีส่วนช่วยในการขยายกระเพาะปัสสาวะเด็กให้ใหญ่ขึ้น ถ้าเด็กยังไม่มีพัฒนาการที่ดีขึ้น ก็อย่าท้อใจนะคะ เพราะไม่มีเด็กคนไหนชอบที่จะตื่นขึ้นมาในสภาพที่เปียกเฉอะแฉะ เด็กที่มีปัญหานี้มักจะต้องการความเข้าใจ ไม่ชอบการถูกต่อว่าหรือถูกทำโทษด้วยการตี ผู้ปกครองควรพูดคุยกับเด็กด้วยคำพูดที่อ่อนโยน ถ้าคืนไหนเด็กฉี่รดที่นอนผู้ปกครองอาจจัดกิจกรรมให้เด็กมีส่วนร่วมในการทำความสะอาด เช่น การช่วยกันซักผ้าปูที่นอน แล้วให้เด็กช่วยซักผ้าปูที่นอนและพยายามพูดสอนเรื่อย ๆ ผู้ปกครองไม่ควรหงุดหงิดเมื่อเด็กฉี่รดที่นอน เพราะจะทำให้ไม่เป็นผลดีกับทั้งตัวผู้ปกครองและเด็กเอง
ผู้ปกครองอย่าลืมปัญหาเรื่องกลิ่นที่ต้องเจอหลังจากเด็กฉี่รดที่นอนนะคะ ไม่ว่าจะทั้งกลิ่นที่ติดกับผ้าปูที่นอนหรือกลิ่นที่ลอยอบอวนทั่วทั้งห้องอีก เรามีเคล็ดลับในการทำความสะอาดและกำจัดกลิ่นมาแนะนำกันค่ะ
เคล็ดลับปราบกลิ่นฉี่และคราบบนที่นอน
- ใช้กระดาษทิชชูแบบหนาซับฉี่บนผ้าให้แห้งเร็วที่สุด เพื่อเป็นการป้องกันคราบฉี่ฝังที่นอน
- จากนั้นให้ค่อย ๆ เทน้ำสะอาดลงบนคราบ แล้วซับให้แห้งอีกครั้ง
- เทน้ำส้มสายชูใส่กระบอกฉีด แล้วฉีดทับลงบนคราบ
- โรยแป้งข้าวโพดหรือเบกกิ้งโซดา เพื่อเป็นการดูดกลิ่นฉี่ ถ้ากลิ่นแรงให้เทน้ำลงไปนิดนึงแล้วเช็ดออกค่ะ แต่ถ้ากลัวกลิ่นไม่หมดสามารถทิ้งไว้ข้ามคืนได้นะคะ
- ให้ใช้น้ำสะอาดเช็ดอีกครั้ง แล้วนำที่นอนไปตากแดดเพื่อเป็นการฆ่าเชื้ออีกที แค่นี้ผู้ปกครองก็สามารถกำจัดกลิ่นฉี่ได้แล้วค่ะ แต่สูตรนี้เหมาะสำหรับผ้าที่เพิ่งโดนฉี่ใหม่ ๆ นะคะ
สูตรนี้เหมาะกับผ้าที่โดนฉี่นานแล้วและเหลือคราบกับกลิ่นทิ้งไว้ค่ะ
- ให้ใช้ฟองน้ำที่ชุบน้ำแล้วเช็ดบริเวณที่เป็นคราบ เช็ดแค่พอชื้น ๆ นะคะ เพราะถ้าเปียกเกินไป จะทำให้คราบกระจายกว้างหนักกว่าเดิม
- จากนั้นใช้กระดาษทิชชูแบบหนาซับที่นอนให้แห้งเร็วที่สุด เพื่อเป็นการลดกลิ่นและไม่ให้คราบฉี่ฝังที่นอนด้านใน
- นำที่นอนไปตากแดดหรือที่โล่ง ๆ ที่มีอากาศถ่ายเทสะดวก หลีกเลี่ยงพื้นที่ที่มีอากาศชื้นโดยเด็ดขาด ไม่งั้นจะเป็นการเพิ่มกลิ่นอับให้กับที่นอนได้
- ฝานเปลือกมะนาวหรือมะกรูดเป็นแผ่นบาง ๆ แล้วถูบริเวณที่เป็นคราบบนที่นอน เพราะในเปลือกผลไม้ตระกูลส้มมีคุณสมบัติในการฆ่าเชื้อแบคทีเรียและกำจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์ได้ค่ะ
เมื่อเด็กฉี่รดที่นอนให้ผู้ปกครองแยกผ้าปูที่นอนที่เปียกฉี่ออกสำหรับรอซัก ใช้ผ้าชุบน้ำเปล่าถูและซับน้ำบริเวณที่เด็กฉี่ให้ได้มากที่สุด แล้วใช้ผ้าชุบน้ำผสมสบู่เหลวอาบน้ำเด็กหรือน้ำยาซักผ้าเด็ก ซับอีก 2-3 รอบ แล้วเช็ดด้วยน้ำสะอาดอีกรอบ จากนั้นนำที่นอนไปตากแดดในตอนเช้า หากยังมีกลิ่นหลงเหลืออยู่ให้ผู้ปกครองทำซ้ำอีกครั้งค่ะ การตากแดดแรง ๆ ในช่วงเช้าจะช่วยทำให้กลิ่นฉี่จางลงได้ ส่วนเรื่องคราบบนที่นอนนั้นอาจจะยังมีหลงเหลืออยู่บ้างค่ะ
ผู้ปกครองอย่าลืมนำที่นอนของเด็กไปตากแดดและตีฝุ่นออกจากที่นอนเป็นประจำด้วยนะคะ เพราะความร้อนจากแสงแดดจะช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรียและยังเป็นการกำจัดตัวไรและฝุ่นละอองออกจากที่นอนได้อีกด้วยค่ะ